>> ลูกศิษย์ 1 : กราบนมัสการครับ….ที่ไม่ล
ยกตัวอย่างเ
ซึ่งมันก็เป็นจุดเดียวกันก
<< พระอาจารย์ : มีซิ เหตุแห่งการเกิดกำเนิดอวิชช
>> ลูกศิษย์ 2 : ไหวค่ะ^^
<< พระอาจารย์ : ภาชนะมีแค่ไหน ที่ว่าไหว นังปอบ โม้ให้ฟังมาเป็นปี ยังไม่เคยถาม ซอกซอนให้ยิ่งๆ ขึ้นไปเลย ได้แค่เท่าที่โม้ แล้วเงียบหายทุกที
>> ลูกศิษย์ 2 : โหว…มีแต่มันอยู่ลึก ฟังๆๆๆๆคร้าๆ งั้นหนูถาม เหตุของอวิชชาคือไรค่ะ ในเมื่อ อวิชชา ก็เป็นผล อิๆๆ
<< พระอาจารย์ : แกก็ตอบมาซิ อะไรคือเหตุแห่งอวิชชา ถ้าตอบว่า เหตุแห่งอวิชชาคือความไม่รู
มีคนตอบมาทางข้าว่า อวิชชา เกิดจาก จิตสังขาร ที่มันปรุงแต่ง
นี่ขอบอกว่า จิตสังขาร มันเป็นผลของอวิชชา และมันเป็นวงล้อแห่งกาลของป
นี่..ประจักษ์แจ้งแทงใจไหม ว่าการรู้การท่อง วงจรปฏิจจสมุปบาท มันใช่ว่า จะเป็นผู้รู้ธรรม มันได้แค่ท่องๆ ตามๆ เขาว่า
จึงได้เอาอวิชชา มาเป็นผลของจิตสังขารอีก นี่เรียกว่า จนแต้มเท่าที่จำเท่าที่ท่อง
ผู้มีความชำนาญในวิปัสสนาญา
อย่างแกเป็นนักเคมี เจ้าปอบ ใครถามซอกไหนของเคมี เก่งมาจากไหน แกตอบเคลียร์ได้หมด น่าน..มันต้องอย่างนั้น เข้าใจ
ไหม
มัวอึ้งๆ อ้ำๆ อยู่ มันก็แสดงผลแล้ว ว่าไม่รู้จริง รึแกจะเถียง นังปอ..!!
>> ลูกศิษย์ 2 : เหตุของอวิชชา คือ ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ก่อตัวรวมกันมาจึงเป็นเหตุใ
ผลของธาตุทั้งสี่รวมตัวกัน เกิดผัสสะ ทำให้ขบวนการปฏิจสมุปบาททำง
<< พระอาจารย์ : พ่อมึงซินังปอ จำมายังจำไม่ถูก ดิน น้ำ ลม ไฟ ตรงไหน จึงเป็นอวิชชา มั่วหลายๆ นังนี่..
>> ลูกศิษย์ 3 : เหตุแห่งอวิชชา คือจิตหลงผัสสะ มันลึกครับ
<< พระอาจารย์ : รัตนตรัย ตอบมาเข้าท่า เหตุแห่งอวิชชา คือผัสสะ นี่..ถูกต้องเลย เพียงแต่การถูกนั้น ยังขาดญาณแห่งปัญญา
อวิชชามีได้ เหตุมันคือผัสสะ ว่างแล้วจะขยายให้ฟัง เมื่อมีผู้ผัสสะ ก็ต้องย่อมมีคู่กรณี ตรงนี้ เราเข้าลึกไปไม่พอ ปัญญาไม่ถึง ว่างแล้วจะมาขยายให้ ท่านนักปฏิบัติหลายท่าน ติดตรงนี้ ตีตรงนี้ไม่แตก จึงเป็นทาสแห่ง อวิชชา..มันเป็นความรู้ ยังถูกอย่างไม่จริง
>> ลูกศิษย์ 1 : กราบนมัสการ…ถ้าเหตุแห่งอ
<< พระอาจารย์ : ฮ่าๆๆๆ เล่นเจ้า สุเทพ..ก่อน มวยพลิกไม่มีไอ้น้อง มีแต่มวยแบเบอร์ ..
ผัสสะนี้ ยังไม่เกิดมามีอายุ มันก็มีผัสสะแล้ว ผัสสะมันมีมาแต่อสุจิโน่นเล
เหตุที่เกิดผัสสะ คือโปรแกรมที่มีสัญญาจิตเป็
ไอ้ความเป็นเรานี่ มันมีหลายเรา มันมีเราที่ยังไม่ใส่สมมุติ
ในขณะที่รู้ผัสสะ จะรู้ธรรมหรือไม่รู้ธรรม มันก็มีผัสสะ ตราบใดที่มีรูป ต่างมีช่องทางการรู้ผัสสะทั
เพราะมันสืบเนื่องมาจาก อวิชชาที่ปรุงแต่งเหตุ มาแต่ก่อนเก่า
ที่สุเทพ แสดงมานั้น สุเทพมั่วกาล ไปเข้าใจว่ามีเรารู้สมมุติแ
เด็กอยู่ในท้องแท้ๆ ยังมีหูลิ้นตาช่องต่อทางอาย
แค่เอาเหล็กขูดทำแท้งแหย่ๆ มันยังหนี มันหนีทำไม ถ้าไม่มีผัสสะ
สุเทพยังไม่เข้าใจ เรื่อง ผัสสะ ไม่เข้าใจเรื่องนามขันธ์ ไม่เข้าใจเรื่องเหตุปัจจัย ไม่เข้าใจเรื่อง อวิชชา
ที่เข้าใจ เกิดจาก บวกลบคูณหารเข้าใจเอา เอาเหตุเอาผลที่จำและคิดว่า
ท่านมหาที่นี่ ฝึกอย่างเอาจริงเอาจัง จนวันหนึ่งรู้แจ้งประจักษ์จ
จึงประกาศบอกไปยังญาติโยม ท่านรู้หมด ทุกกระบวนการ ที่ไม่รู้เพียงอย่างเดียวคื
ทุกกระบวนการนั่น ท่านมหาเป็นผู้รู้ ต่อเมื่อได้มาพบเจอท่านผู้เ
เอาใจให้มันถึงศีลให้ได้เหอ
อวิชชา มันมีเหตุปัจจัยมาจาก ผัสสะ แต่เหตุปัจจัยนี้ ผู้เข้าไม่ถึง ย่อมอธิบายไม่ได้ แต่รู้ตามได้
ผลไม้ที่ยังไม่สุกงอม ย่อมหล่นจากขั้วไม่ได้ฉันใด
พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง จิตไร้การอบรม…ย่อมเป็นโท